สิ่งที่จะทำให้รู้นิสัยของคนเรานั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างและ กริยาท่าทางหรือความสนใจในบางสิ่งก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถบ่งบอกนิสัยของคนเราได้เช่นกัน อย่างการอ่านหนังสือก็สามารถบ่งบอกได้เช่นกันนะ ลองมาดูกันนะคะว่าจะตรงกับนิสัยของคุณหรือเปล่า
1**สมมุติว่าเราหยิบหนังสือมาหนึ่งเล่ม หากเราเปิดอ่านแค่คร่าว ๆ โดยไม่ได้ใส่ใจที่จะอ่านรายละเอียดมากนัก แสดงว่าเป็นคนใจร้อน วู่วาม เวลาจะทำงานอะไรก็ จะไม่ค่อยละเอียดถี่ถ้วนนัก
จะให้ความสนใจแต่เรื่องหลัก ๆ ไม่มีการวางแผนล่วงหน้า นึกอยากจะทำอะไรก็จะลงมือเลยแบบตามใจตัวเองโดยไม่คิดให้รอบคอบเสียก่อน จึงมักจะมีเรื่องให้ผิดหวังอยู่เสมอ
2**เปิดอ่านแต่เรื่องที่ตนเองสนใจ แสดงว่าเป็นคนที่มีความเป็นเด็กอยู่ในตัวสูง มักเอาแต่ใจตัวเอง นึกคิดอะไรก็ทำไปอย่างนั้น ไม่ค่อยนึกถึงจิตใจผู้อื่นเท่าใดนัก
แต่เป็นคนจิตใจดี ใจกว้าง ชอบ ช่วยเหลือผู้อื่น แต่ด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยมีมนุษยสัมพันธ์เลยทำให้ไม่ค่อยมีคนกล้าเข้าใกล้หรือกล้าเข้ามาทำความรู้จักด้วย
3**ชอบอ่านทุกหน้าและทุกเรื่อง จะเป็นคนใจกว้าง ยอมรับความคิดหรือสิ่งใหม่ ๆ ได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นความคิดของใครก็ตาม เป็นคนที่ให้โอกาสคนอื่นสูง
ความสนใจใคร่รู้ในสิ่งต่าง ๆ และทันเหตุการณ์และหากสนใจในเรื่องใด ก็มักจะทุ่มเทให้กับเรื่องนั้นเพื่อให้รู้จริง มีความคิดกว้างไกลมากและมักจะได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง
4**ชอบออกเสียงเวลาอ่านหนังสือ แสดงให้เห็นถึงการมีใจคอเปิดเผยจริงใจและซื่อสัตย์ต่อทุกคนที่คบด้วยและเป็น คนไว้ใจได้ไม่ค่อยมีพิษมีภัยกับใคร เป็น คนรักสงบ มีชีวิตเรียบง่าย สมถะ รักธรรมชาติ
ถึงแม้จะไม่ใช่คนมีภูมิความรู้อะไรมากนักแต่ก็มีความน่านับถืออยู่ในตัว มีโลกส่วนตัวและมีโลกในอุดมคติของตัวเอง
5**ชอบขีดเส้นข้อความสำคัญเวลาอ่านหนังสือ อุปนิสัยเป็นคนช่างจดจำและค่อนข้างยึดมั่นในตัวเอง สิ่งไหนที่เป็นของตนเองก็ไม่อยากให้ใครมาแย่งไป
แต่ก็เป็นคนทำงานเก่งและทำได้ดี เพราะเวลาทำงานมักจะทำอย่างจริงจัง และไม่ชอบเสียเวลากับเรื่องไร้สาระ
6**ชอบพับขอบหนังสือ เวลาอ่านหนังสือค้างไว้มักจะใช้วิธีพับขอบแทนการใช้ที่คั่นหนังสือ แสดงว่าเป็นคนไม่ค่อยเรียบร้อยนัก แต่เมื่อได้ลงมือทำอะไรก็มักจะทำอย่างจริงจัง หมกมุ่นจนทำสำเร็จ ไม่ค่อยใส่ใจคนรอบข้างนัก
ดูเหมือนเป็นคนเห็นแก่ตัวแต่ที่จริงเค้าไม่เก่งเรื่องโฆษณาประชาสัมพันธ์ตัวเองซะมากกว่า ยิ่งเวลามีคนมาขอความช่วยเหลือเค้าก็จะพร้อมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ จะลองสังเกตการอ่านหนังสือของคนใกล้ตัวดูก็ได้นะค่ะ จะได้รู้นิสัยเค้าด้วย
วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553
เคล็ดลับ อ่านหนังสือสอบให้ได้ผล!!
1. ปิด ทีวี คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต mp3 มีสติอยู่กับหนังสือ
2. นั่งสมาธิสัก 5 นาที
3. อ่านหนึ่งรอบ แล้วสรุป โดยไม่เปิดหนังสือ
4. เช็คคำตอบ
5. อ่านอีกหนึ่งรอบ
6. สรุปใหม่ เปิดหนังสือได้เอาไว้อ่าน
7. ถ้าทำเป็น Mind Mapping จะอ่านง่ายขึ้น
8. มีเอกสารอะไรที่ครูแจก อย่าคิดว่าไม่สำคัญ
9. ท่องในส่วนที่ครูพูดย้ำบ่อยๆ อย่างน้อย 2 ครั้ง/คาบ
10. ก่อนวันสอบ ห้ามหักโหมอ่านหนังสือถึงเที่ยงคืน เพราะสมองจะไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น
นิยาม "รัก"
คำว่า "รัก" มีอะไรมากมายซุกซ่อนอยู่ในนั้น
อาจจะหวานชื่น ขมขื่น หรืออะไรอื่นอีกหลากหลาย
ที่จะทำให้คนรู้จัก "รัก" ได้สัมผัสและรู้สึกถึง….
ความรักเริ่มจากความคิด
เพราะความคิดเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก
บางที.. ความรักอาจทำให้คนเราเปลี่ยนแปลงความคิดไปจากเดิม
อาจทำให้คนเราต้องปรับปรุงในสิ่งที่เคยทำ
เพียงเพื่อให้เข้ากับใครอีกคน
ความรักทำให้เกิดความเคารพ ศรัทธา
คุณจะไม่สามารถรักใครได้ ถ้าไม่รู้สึกเชื่อมั่นเสียก่อน
และคนแรกที่คุณต้องศรัทธาเชื่อมั่น ก็คือตัวเอง
ความรักคือการให้
ถ้าคุณต้องการที่จะได้ความรัก
สิ่งที่คุณต้องทำก็คือการให้ ยิ่งให้.. คุณก็จะยิ่งได้รับ
สูตรลับของความสุขและทำให้มิตรภาพยืนยาวที่คุณควรจะจำเอาไว้เสมอก็คือ
อย่าถามว่าคนอื่นให้อะไรคุณบ้าง
แต่ให้ถามว่าคุณทำอะไรให้คนอื่นบ้างจะดีกว่า
ในความรักมีมิตรภาพซ่อนอยู่
อยากได้รักแท้ ก็ต้องหาเพื่อนแท้ให้ได้เสียก่อน
การจะรักกันได้ไม่ใช่แค่มองตา
แต่อยู่ที่ว่า.. ต่างคนต่างมีอะไรที่ตรงกันหรือเปล่า
หากจะรักใครอย่างจริงใจ
คุณควรจะรักในสิ่งที่เขาเป็น ไม่ใช่แค่ภาพที่คุณเห็น
มิตรภาพก็เหมือนกับปุ๋ยที่ช่วยทำให้ความรักเบ่งบานเติบโตทุก ๆ วันนั่นเอง
การสัมผัส ช่วยสานต่อความรักให้ดีขึ้น
เคยรู้สึกดีใช่ไหมเวลาที่มีใครโอบไหล่หรือกอดคุณ?
การสัมผัส.. จึงเป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งที่มีพลัง
และช่วยทลายกำแพงแห่งความชิงชังไม่เข้าใจได้อีกด้วย
น่าแปลกที่การสัมผัสสามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์
และท่าทีที่แข็งกร้าวให้เบาบางลงได้
อยากรักต้องรู้จักปลดปล่อย
ถ้าคุณรักใคร.. จงปล่อยให้เขาเป็นอิสระบ้าง
เพราะคุณเองคงรู้สึกอึดอัด ถ้ามีใครมาล่ามโซ่คุณ
ดังนั้น.. จงเรียนรู้ที่จะให้อภัยและลืมอดีตที่ไม่ดี
เรียนรู้ที่จะปลดปล่อยความกลัวภายในใจ
เรียนรู้ที่จะยุติธรรม และลดทิฐิ รวมถึงเงื่อนไขต่าง ๆ ลงบ้าง
ลองบอกตัวเองว่า.. นับแต่นี้ คุณจะทิ้งความกลัวทั้งหมด
แล้วอดีตจะไม่มีผลอะไรต่อตัวคุณได้..
นับจากวันนี้ไป คุณก็จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่เสียที ชีวิตจะเปลี่ยนไป
เมื่อเราเรียนรู้ที่จะเปิดใจให้กว้างและซื่อสัตย์ต่อกัน
รวมถึง.. คุยกับคนรักอย่างเปิดเผย
และกล้าที่จะพูดถ้อยคำวิเศษว่า "ฉันรักเธอ"
โดยไม่ปล่อยให้โอกาสดี ๆ หลุดลอยไป
คุณควรจะบอกรักก่อนจากกันทุกครั้งเสมอ
เพราะบางที.. นั่นอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณจะพบกัน!
แก่นแท้ของความรัก คือการไว้ใจกัน
ถ้าคุณไม่เชื่อใจกัน ใครคนหนึ่งจะรู้สึกระแวง กังวล และหวาดหวั่น
ขณะที่อีกคนรู้สึกอึดอัดใจ ที่สำคัญ.. คุณไม่อาจรักใครจริง ๆ ได้
ถ้าคุณไม่ไว้ใจเขาคนนั้นอย่างแท้จริง
อาจจะหวานชื่น ขมขื่น หรืออะไรอื่นอีกหลากหลาย
ที่จะทำให้คนรู้จัก "รัก" ได้สัมผัสและรู้สึกถึง….
ความรักเริ่มจากความคิด
เพราะความคิดเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก
บางที.. ความรักอาจทำให้คนเราเปลี่ยนแปลงความคิดไปจากเดิม
อาจทำให้คนเราต้องปรับปรุงในสิ่งที่เคยทำ
เพียงเพื่อให้เข้ากับใครอีกคน
ความรักทำให้เกิดความเคารพ ศรัทธา
คุณจะไม่สามารถรักใครได้ ถ้าไม่รู้สึกเชื่อมั่นเสียก่อน
และคนแรกที่คุณต้องศรัทธาเชื่อมั่น ก็คือตัวเอง
ความรักคือการให้
ถ้าคุณต้องการที่จะได้ความรัก
สิ่งที่คุณต้องทำก็คือการให้ ยิ่งให้.. คุณก็จะยิ่งได้รับ
สูตรลับของความสุขและทำให้มิตรภาพยืนยาวที่คุณควรจะจำเอาไว้เสมอก็คือ
อย่าถามว่าคนอื่นให้อะไรคุณบ้าง
แต่ให้ถามว่าคุณทำอะไรให้คนอื่นบ้างจะดีกว่า
ในความรักมีมิตรภาพซ่อนอยู่
อยากได้รักแท้ ก็ต้องหาเพื่อนแท้ให้ได้เสียก่อน
การจะรักกันได้ไม่ใช่แค่มองตา
แต่อยู่ที่ว่า.. ต่างคนต่างมีอะไรที่ตรงกันหรือเปล่า
หากจะรักใครอย่างจริงใจ
คุณควรจะรักในสิ่งที่เขาเป็น ไม่ใช่แค่ภาพที่คุณเห็น
มิตรภาพก็เหมือนกับปุ๋ยที่ช่วยทำให้ความรักเบ่งบานเติบโตทุก ๆ วันนั่นเอง
การสัมผัส ช่วยสานต่อความรักให้ดีขึ้น
เคยรู้สึกดีใช่ไหมเวลาที่มีใครโอบไหล่หรือกอดคุณ?
การสัมผัส.. จึงเป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งที่มีพลัง
และช่วยทลายกำแพงแห่งความชิงชังไม่เข้าใจได้อีกด้วย
น่าแปลกที่การสัมผัสสามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์
และท่าทีที่แข็งกร้าวให้เบาบางลงได้
อยากรักต้องรู้จักปลดปล่อย
ถ้าคุณรักใคร.. จงปล่อยให้เขาเป็นอิสระบ้าง
เพราะคุณเองคงรู้สึกอึดอัด ถ้ามีใครมาล่ามโซ่คุณ
ดังนั้น.. จงเรียนรู้ที่จะให้อภัยและลืมอดีตที่ไม่ดี
เรียนรู้ที่จะปลดปล่อยความกลัวภายในใจ
เรียนรู้ที่จะยุติธรรม และลดทิฐิ รวมถึงเงื่อนไขต่าง ๆ ลงบ้าง
ลองบอกตัวเองว่า.. นับแต่นี้ คุณจะทิ้งความกลัวทั้งหมด
แล้วอดีตจะไม่มีผลอะไรต่อตัวคุณได้..
นับจากวันนี้ไป คุณก็จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่เสียที ชีวิตจะเปลี่ยนไป
เมื่อเราเรียนรู้ที่จะเปิดใจให้กว้างและซื่อสัตย์ต่อกัน
รวมถึง.. คุยกับคนรักอย่างเปิดเผย
และกล้าที่จะพูดถ้อยคำวิเศษว่า "ฉันรักเธอ"
โดยไม่ปล่อยให้โอกาสดี ๆ หลุดลอยไป
คุณควรจะบอกรักก่อนจากกันทุกครั้งเสมอ
เพราะบางที.. นั่นอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณจะพบกัน!
แก่นแท้ของความรัก คือการไว้ใจกัน
ถ้าคุณไม่เชื่อใจกัน ใครคนหนึ่งจะรู้สึกระแวง กังวล และหวาดหวั่น
ขณะที่อีกคนรู้สึกอึดอัดใจ ที่สำคัญ.. คุณไม่อาจรักใครจริง ๆ ได้
ถ้าคุณไม่ไว้ใจเขาคนนั้นอย่างแท้จริง
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)